หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ

หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อ หลวงพ่อแดง หรือพระครูญาณวิลาศ แห่งวัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายไปทั่วว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีเมตตาธรรมสูง และการปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปเป็นเวลานานมากแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงและวัตถุมงคลของทานก็ยังเป็นที่เลื่องลือจนเกิดเป็นตำนานต่างๆมากมาย
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า หลวงพ่อแดง หรือพระครูญาณวิลาศ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ตามหลักฐานทะเบียนภิกษุวัดเขาบันไดอิฐเลขที่ 1/2444 บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรมีข้อความว่า พระแดง เกิดวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2422 หมู่ที่ 4 ตำบลบางจาก อ.เมือง จ.เพชรบุรี บิดาชื่อ นายแป้น มารดาชื่อ นางนุ่ม นามสกุล อ้นแสง มีพี่น้องรวมกัน12 คน ท่านเป็นคนที่ 5 ในปี พ.ศ.2441 บิดามารดาได้นำท่านไปฝากไว้กับพระอาจารย์เปลี่ยน แห่งวัดเขาบันไดอิฐ และอยู่ที่วัดเขาบันไดอิฐจนกระทั่งอุปสมบท เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2444 เวลา 15.13 น. ณ วัดเขาบันไดอิฐ ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี
วัดเขาบันไดอิฐ ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี นับเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่บนเขา มีถ้ำใหญ่น้อยมากมาย ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวนมาก ทั้งยังมีตำนานโบร่ำโบราณกล่าวถึงอยู่หลายเรื่อง อาทิ ในสมัยพระบรมราชาที่ 2 (พระเชษฐาธิราช) แห่งกรุงศรีอยุธยา ใช้เป็นที่คุมขังของพระศรีศิลป์ ผู้คิดก่อการกบฏ หรือเป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐานของพระเกจิผู้วิชาอาคมหลายรูป เช่น เจ้าอธิการแสง พระอาจารย์ของพระเจ้าเสือ สมัยกรุงศรีอยุธยา และพระอาจารย์เหลือ ผู้ทรงวิทยาคมเข้มขลัง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นต้น
ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียว คือ นางน้อย เกิดประดับ ท่านเป็นพี่ชายของ พระครูปัญญาโชติวัฒน์ ( เจริญ ธมฺมโชติ ) อดีตเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี เป็นที่น่าสังเกตว่า โยมบิดามารดาของท่านเป็นบุคคลผู้มีวาสนา เพราะมีบุตรชายอุปสมบทและครองสมณเพศอยู่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตถึง ๒ รูป ทั้งยังได้เป็นเจ้าอาวาส ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรทั้ง ๒ รูป ด้วย ครอบครัวของท่านมีฐานะพอมีพอกิน และเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งในละแวกนั้น
เมื่อมีอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ บิดามารดาได้นำท่านไปฝากไว้กับพระอาจารย์เปลี่ยนแห่งวัดเขาบันไดอิฐ และเมื่อได้บวชตามประเพณีแล้ว (บางประวัติว่า อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๔๔ อายุ ๒๒ ปี ที่วัดเขาบันไดอิฐ ตำบลไร่ส้ม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี พระครูญาณวิสุทธิ วัดแก่นเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ) ได้รับฉายาว่า รตฺโต (แปลว่าสีแดง) ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาบันไดอิฐตลอดมา หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านเล่าเรียนวิชาไสยศาสตร์และวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอาจารย์เปลี่ยนจนจบ เมื่อพระอาจารย์เปลี่ยนได้ถึงแก่มรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ หลวงพ่อแดงซึ่งขณะนั้นเพิ่งมีอายุย่างเข้า ๔๐ ปี พรรษาที่ ๒๐ ก็ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐแทนเป็นต้นมา
ท่านมีวิทยาคมขลังเป็นที่นับถืออย่างมาก ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้เกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรงขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรีทำให้วัวควายล้มตายลงเป็นอันมาก ท่านได้ปลุกเสกผ้ายันต์สีแดง ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า ให้ชาวบ้านนำไปผูกไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วปักไว้ที่คอกวัวควาย คอกใดที่ผ้ายันต์ของท่านมาปักไว้ วัวควายของคอกนั้นจะไม่เป็นโรคติดต่อ ชื่อเสียงของท่านจึงโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่นั้นมา มีผู้คนไปขอของดีไว้ป้องกันตัวจากท่านมิได้ขาด ท่านจึงได้ทำผ้ายันต์และตะกรุดไว้แจก ผู้ที่นำตะกรุดและผ้ายันต์ของท่านไปบูชามักจะประสบกับอิทธิปาฏิหาริย์อยู่เสมอ
หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกลงเลขยันต์ในผืนผ้ารูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ แจกให้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวควายนำไปผูกปลายไม้ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน ปรากฏผลว่า คอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดงไม่ตายเลย ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐ เมื่อรู้กิตติศัพท์จึงพากันมาขอยันต์หลวงพ่อแดงทุกวันมิได้ขาด
กระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือมหาสงครามเอเชียบูรพา มีทหารญี่ปุ่นมาขึ้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ก็เกิดการต่อสู้กับทหารอากาศของไทยที่นั่น ชาวเพชรบุรีก็ตระหนกตกใจ แล้วชักชวนกันหาหลวงพ่อแดง ท่านก็ลงผ้าประเจียดยันต์แจก ให้คุ้มครองป้องกันตัว
เมืองเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ. 2487 เกิดภัยสงครามชนิดร้ายแรง มีระเบิดลงทุกวันทำลายสถานีรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำ บ้านเรือน โรงเรียนต้องสั่งปิด ข้าราชการไม่ได้ไปทำงาน ทุกหน่วยราชการปิดหมด และปรากฏเรื่องเป็นที่ฮือฮาว่า บ้านคนที่มีผ้ายันต์หรือห้อยเหรียญหลวงพ่อแดง กลับไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย หลวงพ่อแดงจึงดังใหญ่ จนสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 กิตติคุณของหลวงพ่อในทางกฤตยาคมจึงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์แพร่หลายยิ่งขึ้น
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแดงปรากฏอีกครั้ง เมื่อเกิดคอมมิวนิสต์ญวนเหนือบุกญวนใต้ ประเทศไทยต้องส่งกองพันเสือดำ ออกไปช่วยพันธมิตรรบในญวนใต้ ก็ปรากฏว่าทหารไทยที่ไปปฏิบัติหน้าที่รบในเวียดนาม คนที่มีเหรียญหลวงพ่อแดงห้อยคออยู่ ไม่ถูกอาวุธเป็นอันตรายแก่ชีวิตสักคน ทั้งๆ ที่เข้าประจัญบานอย่างหนัก เป็นที่สงสัยของเพื่อนทหารต่างชาติว่าทหารไทยมีของดีอะไร ได้รับคำตอบจากทหารไทยว่ามี “เหรียญหลวงพ่อแดง”
ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตาสูง และอารมณ์ดีเสมอ ไม่ชอบดุด่า ว่าใคร โดยเฉพาะคำหยาบคายถึงพ่อแม่ ท่านห้ามขาด ท่านว่าทุกคนเขาก็มีพ่อมีแม่ การด่าถึงบุพการีทำให้ความดีงามเสื่อมถอย ถึงห้อยพระพระท่านก็ไม่คุ้มครอง
หลวงพ่อแดงมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่ออายุ 96 ปี พรรษาที่ 74 ก่อนตายท่านเคยพูดกับพระปลัดบุญส่ง ธัมมปาโล รองเจ้าอาวาสวัดขณะนั้นว่า
“เมื่อฉันหมดลมหายใจแล้วอย่าเผา ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ และให้เอาเหรียญที่ปลุกเสกรุ่น 1 ใส่ปากไว้พร้อมเงินพดด้วง 1 ก้อน ส่วนนี้ฉันเอาไปได้และให้เอาขมิ้นมาทาตัวฉันให้เหลืองเหมือนทองคำ”

ผู้สนับสนุน  : https://baanonline.com/

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here