ประวัติหลวงปู่ทวด
สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ ซึ่งเราอาจรู้จักันอีกหลายๆชื่อ เช่น สมเด็จเจ้าพะโคะ,หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ หรือท่านองค์ดำหรือท่านลังกา เป็นต้น
เป็นพระเถระที่คนไทยรู้จักกันดี ท่านเป็นเกจิรูปในสมัยอยุธยาซึ่งมีผู้คนศรัทธาเลื่อมใสจำนวนมากเชื่อกันว่าใครที่มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดติดตัวจะเกินทางแคล้วคลาดปลอดภัย
ตามประวัติหลวงปู่ทวดมีนามเดิมว่า ปู เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ยของเศรษฐีปาน ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งตอนนั้นอยู่ในสมัยการปกครองของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
ส่วนเรื่องวันเดือนปีเกิดของท่านมีมีหลักฐานไม่แน่ชัดซึ่งมีการสันนิษบานไว้หลายกระแส ดังนี้
1. หลวงปู่ทวดเกิดวันศุกร์ เดือน 4 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ. 2125” ถ้า พ.ศ.นี้เมื่อผูกดวงตรงกับ วัน พุธ ที่ 3 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2125 ถือว่าไม่ใช่ พ.ศ. 2125 ตรงกับ วุธวาร, แรม 14 คํ่า , เดือน : 3 (มาคมาส), ปี มะเส็ง ปกติสุรทิน, จัตวาศก, ปกติมาส, ปกติวาร ร.ศ. : -199, จุลศักราช : 943, คริสต์ศักราช : 1582
2. หลวงปู่ทวดเกิดวัน อังคาร ที่ 3 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2124 ตรงกับ ภุมวาร, แรม 4 คํ่า , เดือน : 4 (ผคุณมาส), ปี มะโรง ปกติสุรทิน, ตรีศก, อธิกมาส, ปกติวาร ร.ศ. : -200, จุลศักราช : 942, คริสต์ศักราช : 1581
3. หลวงปู่ทวดเกิดวัน ศุกร์ ที่ 6 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2124 ตรงกับ สุกรวาร, แรม 7 คํ่า , เดือน : 4 (ผคุณมาส), ปี มะโรง ปกติสุรทิน, ตรีศก, อธิกมาส, ปกติวาร ร.ศ. : -200, จุลศักราช : 942, คริสต์ศักราช : 1581
4. หลวงปู่ทวดเกิดวัน ศุกร์ ที่ 4 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2131 ตรงกับ สุกรวาร, ขึ้น 8 คํ่า , เดือน : 4 (ผคุณมาส), ปี กุน อธิกสุรทิน, สัมฤทธิศก, ปกติมาส, ปกติวาร ร.ศ. : -193, จุลศักราช : 949, คริสต์ศักราช : 1588
5. ข้อมูลจากตำราหมื่นตราพระธรรมวิลาสเอาไปวิวาทเป็นหัวเมือง ระบุว่า หลวงปู่ทวดเกิดในพระพุทธศักราช 990 ฉลูสัมฤทธิ์ ศก
เรื่องอัศจรรย์ของหลวงปู่ทวด เช่น ในวัยแบเบาะช่วงฤดูเกี่ยวข้าวพ่อและแม่ก็ได้นำเด็กชายปูออกไปเกี่ยวข้าวที่นาของเศรษฐีปานด้วย ซึ่งท้องนาแห่งนี้ก็ห่างจากบ้านของเศรษฐีปานระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
ทุ่งน่าแห่งนี้มีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากจึงเรียกท้องนาแห่งนี้ว่าทุ่งมะเม่า ปัจจุบันทุ่งมะเม่านี้ก็กลายเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์นาเปล ซึ่งแต่ก่อนทุ่งมะเมามีสัตว์ป่าชุกชุมมาก ในเวลาที่พ่อและแม่ของเด็กชายปูออกไปเกี่ยวข้าวก็ได้ผูกเปลผ้าไว้ที่ต้นมะเม่า
และก็ออกไปเกี่ยวข้าว พอถึงเวลาให้นมแม่ของเด็กชายปูก็เดินกลับมาที่เปลและได้เห็นงูจงอางตัวใหญ่พันอยู่ที่รอบเปลของเด็กชายปู เมื่อแม่ของเด็กชายปูเห็นแล้วก็ตกใจรีบไปตามพ่อมาช่วยไล่งู แต่ไล่ยังไงงูจงอางตัวนี้
ก็ไม่ยอมไปไหน พ่อและแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้ตั้งจิตอธิฐานว่าขอให้งูนั้นอย่าทำอะไรลูกน้อยในเปลเลย หลังจากอธิฐานเสร็จงูก็คลายวงรัดออกและเลื่อยหนีหายไป พ่อและแม่ก็รีบวิ่งเข้าไปดูเด็กชายปูที่ถูกงูพันไว้
แต่ปรากฏว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อสังเกตุที่บนอกของเด็กชายปูก็เห็นว่างูจงอางขนาดใหญ่นั้นได้คลายเมือกแก้วขนาดใหญ่ไว้บนอกของเด็กชายปูซึ่งลูกแก้วก็ได้เปร่งแสงแวววาวและต่อมาก็ได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว
ปัจจุบันลูกแก้วนี้ได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ หลังจากนั้นก็ได้พาเด็กชายปูกลับมาที่บ้านเมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องลูกแก้ว ก็ขู่บังคับให้พ่อและแม่ของเด็กชายปูเอาลูกแก้วนี้ให้เศรษฐีปาน หลังจากเศรษฐีปานได้ลูกแก้วนั้นไป
ก็ได้เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยและฐานะของเศรษฐีปานก็ได้ยากจนลงจนเศรษฐีปานต้องนำเอาลูกแก้วมาคืนให้แก่เด็กชายปูและทำพิธีขอขมาพร้อมยกหนี้สินให้แก่พ่อและแม่ของเด็กชายปู หลังจากนั้นอาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็ค่อยๆหายไป
และฐานะของเศรษฐีปานก็กลับมาร่ำรวยเหมือนเดิม
ต่อมาเมื่อเด็ชายปูอายุประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 พ่อและแม่ได้ฝากเด็กชายปูเป็นศิษย์วัดเพื่อศึกษาเล่าเรียนที่วัดที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ในขณะนั้นมีท่านสมภารจวงเป็นเจ้าอาวาสอยู่ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของเด็กชายปู
เด็กชายปูเป็นเด็กหัวดีได้เล่าเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทย เมื่อถึงอายุ 15 ปี ท่านสมภารจวงก็ได้บวชให้เด็กชายปูเป็นสามเณรและพ่อแม่ของเด็กชายปูก็ได้ถวายลูกแก้วให้เป็นลูแก้วประจำตัวท่าน
ด้วยความใฝ่รู้ของเด็กชายปูที่เรียนรู้วิชาได้อย่างรวดเร็วท่านสมภารจวงได้นำไปฝากเรียนที่วัดสีคูยังหรือวัดสีหยัง ซึ่งมีสมเด็จพระชินเสนเป็นเจ้าอาวาสในระดับมูลบทบรรพกิจหรือปัจจุบันเรียกว่านักธรรมนั้นเอง
เด็กชายปูเรียนรู้วิชาได้อย่างรวดเร็วและเรียนจบระดับมูลบทบรรพกิจหลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นที่วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในขณะนั้นมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสีเป็นเจ้าอาวาส
และเมื่ออายุครบกาลอุปสมบทท่านสมเด็จพระมหาปิยะทัสสีก็ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ให้ ตลอดชีวิตของท่านหลวงปู่ทวดได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาจากครูบาอาจารย์ต่างๆ จนมีความรู้มากหลายและเป็นผู้ทรงอภิญญามาก
หลวงปู่ทวดได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้งเป็นที่เลื่อมใสของผู้คนมากมาย ภายหลังหลวงปู่ทวดด้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์
เมื่อท่านอายุ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่านและได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ภายหลังที่ท่านมรณภาพไปแล้วจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว